ฮีโร่ไกด์

Moon Rider

แนวทางการเล่น Moon Rider

ผู้เขียน
GOM
วันที่เขียน
22 ส.ค. 2013
ได้คะแนน

4 คะแนน



ไกด์ที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเล่น Moon Rider สาย -

ไกด์ (Guides)

แนวทางการเล่น Moon Rider

 

 

Moon Rider

Luna Moonfang

Hero สาย Agi                         

 Strength 15+1.9

 Agility  22+2.8

 Intelligence 16+1.85

 

ค่าความสามารถเริ่มต้นของตัวละคร

 

Affiliation: Sentinel

Damage: 48 - 54

Armor: 3.08

Movespeed: 330

Attack Range: 330

Attack Animation: 0.46 / 0.54

Casting Animation: 0.6 / 0.4

Base Attack Time: 1.7

Missile Speed: 900

Sight Range: 1800 / 800 

 

อธิบายค่าต่างๆ

 

     Luna เป็น Hero Semi-Carry ที่สามารถเล่นเป็น Hard-Carry ได้เก่งเช่นกันมีจุดเด่นคือ Skill ทำ Magical Damage ในช่วงต้นเกมและสามารถสวนกลับการโดน Gank ได้ดี Luna มี Base Damage สูงพอสมควร มี Attack Range ปานกลางและเมื่อบวกกับ Skill เพิ่ม Base Damage อีกจะทำให้ Last Shot / Denies Creep ได้ง่ายมากส่วนเกราะกับเลือดนั้นปานกลางทำให้พออยู่ใน Team Fight เพื่อทำ Damage ได้มาก นอกจากนี้ Luna ยังมี Movespeed ที่สูงมากๆ ทำให้สามารถวิ่งไล่ยิงได้ทันเกือบทุกกรณีนอกจากนี้ยังทำให้อีกฝ่ายแถบไม่มีทางหนีจาก Eclipse ได้เลยถ้าไม่มีการเพิ่ม Movespeed Luna ยังใช้ต่อกรกับ Hero ที่ Summon Unit หรือใช้ Illusion ได้ดีอีกด้วย


 

Skill ความสามารถต่างๆ

 

Lucent Beam

Level 1/2/3/4

Mana Cost 90/100/110/120

Cooldown 6/6/6/6

Magical Damage 75/150/225/300

 

     Luna เพ่งสมาธิรวบรวมพลังงานแห่งพระจันทร์เพื่อทำ Damage ใส่เป้าหมายและ Stun เป้าหมายเป็นเวลา 0.6 วินาที เป็น Skill ที่ใช้ทำ Damage ช่วงแรกได้ดีเพราะมีCasting Range ที่ไกลและระดับ Damage ปานกลางและยังมี Cooldown น้อย นอกจากนี้ยังใช้ขัดขวาง Channeling และ Hero วาปหนีได้อีกด้วย

 

 

Moon Glaive - Passive

Level 1/2/3/4

Max Bounce 2/3/4/6

               

     ทำให้การโจมตีของ Luna เด้งไปโดน Hero หลายตัวโดย Damage จะลดลง 30% ต่อครั้งที่เด้ง ซึ่งจะทำให้ Luna โจมตีไม่ได้เมื่อใส่ Item Maelstorm, Mjollnir และ Desolator และ Moon Glaive จะทำงานเหนือ Feedback (Diffusal Blade) และ Cold Attack (Eye of Skadi) เป็น Skill ที่ทำให้ Luna ดัน Creep ได้เร็วเมื่อมี Damage สูงและสามารถทำ Damage ได้ทั่วถึงในจังหวะ Team Fight และยังใช้จัดการกับ Hero ที่สร้าง Illusion ได้ดีอีกด้วย

 

 

Lunar Blessing – Passive Aura

Level 1/2/3/4

Increase Base Damage 14/22/30/38

               

     เพิ่ม Base Damage ให้กับ Hero ฝั่งเราที่อยู่ในระยะ 900 range และยังทำให้ Luna สามารถมองเห็นในตอนกลางคืนได้เท่าปกติอีกด้วย เป็น Skill ที่ทำให้ Luna สามารถ Last Shot / Denies Creep ในตอนแรกได้ง่ายและทำให้ Hero ที่อยู่ใน Lane เดียวกับเราตอด Hero ฝ่ายตรงข้ามได้รุนแรงและยังเพิ่ม Damage ในจังหวะ Team Fight ได้พอสมควรอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้ Luna ได้เปรียบในตอนกลางคืนเพราะเห็น Hero ได้จากระยะไกลในขณะที่อีกฝ่ายไม่เห็นเราอีกด้วย

 

 

Eclipse

Level 1/2/3

Mana Cost 150/200/250

Cooldown 160/150/140

Duration 1.8/3.6/5.4

Duration แบบใส่ Aghanim's Scepter 1.8/4.2/6.6

Summoned Lucent Beam 4/7/10

Summoned Lucent Beam แบบใส่ Aghanim's Scepter 4/8/12

               

     ร่ายเวทย์มนตร์แห่งพระจันทร์เพื่อเรียก Lucent Beam หลายลูกลงมาทำ Damage ศัตรูรอบๆ Luna โดย Damage จะขึ้นตาม Damage ของ Lucent Beam ซึ่ง Lucent Beam จะทำ Damage Hero ตัวเดิมไม่เกิน 4 ครั้ง (6 ครั้งถ้ามี Aghanim's Scepter) โดย Lucent Beam จะทำ Damage ทุกๆ 0.6 วินาทีและหยุดเมื่อ Luna ตาย นอกจากนี้ Lucent Beam ที่มาจาก Eclipse จะไม่ Stun Skill นี้จะเปลี่ยนช่วงเวลาให้เป็นกลางคืน 10 วินาทีอีกด้วย เป็น Skill ที่ใช้ทำ Damage ได้ดีเมื่อไม่มี Creep อยู่รอบๆจึงใช้จัดการกับศัตรูที่มา Gank เราได้ดี รวมถึงในจังหวะ Team Fight ซึ่งเราจะสามารถจัดการ Creep ได้เร็วเมื่อมี Moon Glaive แล้วหรือให้เพื่อนใน Team จัดการ Creep ให้เพื่อให้ Eclipse ทำ Damage ได้สูงสุด


 

แนวทางการเล่น

 

     Luna เป็น Hero ที่เล่นได้ทั้ง Semi-Carry และ Hard-Carry สามารถเล่นได้ทั้ง Solo Lane กลางและไปให้เพื่อน Support ใน Lane ใกล้ซึ่งนอกจากสามารถฟาร์มได้ง่ายแล้ว ยังสามารถฆ่าได้ในจังหวะที่มีคนมาช่วย Disable และ ทำ Damage โดยใช้ Lucent Beam ช่วยและวิ่งไล่ตีด้วย Movespeed ที่สูงของเราจะทำได้ทำ Damage ได้สูงแม้อีกฝ่ายวิ่งหนี ถ้าเสียเปรียบให้เก็บ Eclipse ไว้ใช้ตอนโดน Gank แต่ถ้าเกมได้เปรียบให้หาจังหวะ Gank อีกฝ่ายด้วย Eclipse พอช่วงกลางเกมให้เริ่มดันถ้า Hero ฝ่ายเราสามารถดันได้ดีแต่ถ้าไม่คิดว่าสามารถดันได้ให้ฟาร์มถ่วง Late ก็ได้เพราะ Luna เป็นตัวที่เก่งในช่วง Late game มากๆเช่นกันเพราะสามารถทำ Damage ได้ทั่วถึงและมหาศาล การเล่น Luna ให้พยายามฟาร์มให้ได้มากที่สุดและเนื่องจากไม่มี Survivablity การฟาร์มให้พยายามฟาร์มในช่วงที่ปลอดภัยและโดนตุ้ยได้ยากและคอยพกวาปไว้วาปไปฟาร์มเมื่อ Creep ดันถึง Tower

 

แนวทางการอัพSkill

 

 

     ให้อัพ Lucent Beam ไว้ใช้กดดัน Lane และทำให้ Eclipse มี Damage ก่อนแล้วจึงอัพ Lunar Blessing ซึ่งจะทำให้เลี้ยง Creep ได้ง่ายแล้วจึงอัพ Moon Glaive ในช่วงกลางเกมที่เป็นจังหวะที่สามารถดัน Creep ให้เกิดประโยชน์ได้

 

การออกของ , item, core item

 

     ต้นเกม เริ่มด้วยการซื้อ Ring of Protection, Circlet of Nobility, Ironwood Branch และ Tango โดยอาจให้เพื่อนที่ Support ซื้อของกินเพิ่มเลือดอย่างอื่นให้อีกก็ได้จากนั้นให้อัพเกรด Tranquil Boots เป็นอย่างแรกแล้วจึงทำ Bracer และ Magic Wand

     กลางเกม ให้อัพเกรด Bracer เป็น Ancient Janggo of Endurance และทำ Yasha จากนั้นให้อัพเกรดเป็น Manta Style ซึ่งจะใช้ Disable Debuff และสร้างความได้เปรียบใน Team Fight จากนั้นให้ออก The Butterfly เพื่อเพิ่ม Damage

     ท้ายเกม ให้ออก Monkey King Bar เพื่อเพิ่ม Damage และใช้สู้กับ Hero ที่มี Evasion จากนั้นจึงออก Satanic เพื่อเอาไว้ใช้ใน Team Fight ซึ่งจะทำให้จัดการกับ Luna ได้ยากมากเพราะสามารถ Regen เลือดคืนมาได้

 

Tips & Trick

 

* ถ้าอีกฝ่ายมีเวทย์ AoE และ Disable เยอะอาจออก Black King Bar ก่อน Manta Sytle

* จังหวะ Team Fight ให้ใช้ Eclipse ตั้งแต่เปิดเพื่อตัด Vision อีกฝ่าย ซึ่ง Lucent Beam จะค่อยๆออกมาให้รีบใช้จังหวะนั้นเคลีย Creep

* Hero ที่ชนะทาง ได้แก่ Hero ที่สร้าง Illusion หรือ Summon Unit ซึ่งเราจะจัดการได้ง่ายเพราะมี Moon Glaive รวมถึง Hero ที่เลือดน้อยที่อาจโดน Moon Glaive ในช่วง Late game จนตายได้

* Hero ที่แพ้ทาง ได้แก่ Hero ที่สามารถ Disable ได้นานๆหรือสามารถใช้ Skill ย้ายที่เข้ามา Disable เราก่อนได้ซึ่งถ้าช่วงแรกๆที่ Luna มีเลือดน้อยอาจตายก่อนได้ใช้ Manta Style หรือ Black King Bar เพื่อกู้สถานการณ์ได้

 

 

 




คอมเมนต์ (Comments)