ฮีโร่ไกด์

Juggernaut

แนวทางการเล่น Juggernaut

ผู้เขียน
GOM
วันที่เขียน
22 ส.ค. 2013
ได้คะแนน

7 คะแนน



ไกด์ที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเล่น Juggernaut สาย -

ไกด์ (Guides)

แนวทางการเล่น Juggernaut

 

 

Juggernaut

Yurnero

Hero สาย Agi                         

 Strength 20+1.9

 Agility 20+2.85

 Intelligence 14+1.4

 

ค่าความสามารถเริ่มต้นของตัวละคร

 

Affiliation: Sentinel

Damage: 44 - 48

Armor: 3.8

Movespeed: 305

Attack Range: 128 (melee)

Attack Animation: 0.33 / 0.84

Casting Animation: 0.3 / 0.51

Base Attack Time: 1.6

Missile Speed: Instant

Sight Range: 1800 / 800 

 

อธิบายค่าต่างๆ

 

     Yurnero เป็น Hero ที่สามารถทำ Damage ได้สูงและมี Skill Immune Magic ตั้งแต่แรก โดยสามารถเล่นได้ทั้ง Semi-Carry และ Hard-Carry Yurnero มี Base Damge ปานกลางและเสถียร มีเกราะและเลือดพอสมควร และมี Movespeed มากกว่าปานกลางเล็กน้อย สามารถฟาร์มใน Lane ใกล้ที่มีคนช่วย Support ได้ดีและสามารถฆ่าหรือกดดัน Lane ได้เยี่ยมเมื่อมี Hero Disable หรือ Slow Combo ด้วย ในช่วงกลางเกมจะสามารถเป็นตัวเปิดใน Team Fightได้อีกด้วยเพราะมี Skill เปิดอย่าง Omnislash และ Skill Immune Magic อย่าง Blade Fury นอกจากนี้ยังสามารถสวนกลับเวลาโดน Gank ได้อย่างดีด้วย Omnislash โดยรวมแล้ว Yurnero เป็น Hero ที่เก่งใน Team Fight มากกว่าสู้ตัวต่อตัว


 

Skill ความสามารถต่างๆ

 

Blade Fury

Level 1/2/3/4

Mana Cost 110/110/110/110

Cooldown 30/28/26/24

Magical Damage per Second 80/100/120/140

     

     สร้างพายุดาบที่ทำ Damage รอบตัว Yurnero เป็นระยะ 250 AoE และทำให้เขา Immune Magic เป็นเวลา 5 วินาที ซึ่ง Yurnero จะไม่สามารถโจมตีเป้าหมายที่โดน Damage จาก Blade Fury อยู่ได้และ Yurnero สามารถใช้ Item ได้ขณะที่อยู่ในสถานะ Blade Fury โดย Skill นี้จะไม่ทำ Damage Mechanical Unit (รถยิง) เป็น Skill ที่ใช้ทำ Damage ในช่วงต้นเกมได้สูงมากและใช้เพื่อให้ Yurnero Immune Magic ได้ทำให้สามารถเข้าไปทำ Damage ได้พอสมควรก่อนโดนสวนหรือโดน Disable โดยถ้าใช้ Combo ในช่วงต้นเกมกับ Hero ที่มี Slow หรือ Disable จะทำให้ได้ Damage ที่สูงมากและทำให้กดดัน Lane ได้เป็นอย่างดี

 

Healing Ward

Level 1/2/3/4

Mana Cost 80/100/120/140

Cooldown 60/60/60/60

Heal per Second ตาม Hp Max 2%/3%/4%/5%

               

     เรียก Ward ที่ฟื้นพลัง Hp ให้กับยูนิตฝ่ายเราที่อยู่รอบๆในระยะ 500 AoE โดย Ward จะอยู่นาน 25 วินาทีและสามารถเคลื่อนที่โดยมี Movespeed 300 ถ้าเรามี Ward นี้สองต้นเราจะได้รับการ Heal เท่าเดิมและ Ward จะไม่ Heal Mechanical Unit (รถยิง) เป็น Skill ที่ทำให้ Yurnero อยู่ Lane ในช่วงต้นเกมได้ง่ายขึ้นและยังทำให้ได้เปรียบใน Team Fight อย่างมาก เนื่องจาก Ward นี้ Heal ได้เยอะมากแต่อีกฝ่ายจะแก้ได้ด้วยการให้ตัว Range ที่มีระยะโจมตีไกลโจมตี Ward

 

Blade Dance - Passive

Level 1/2/3/4

Critical Chance 15%/20%/25%/35%

               

     ดาบอันคมกริบของ Yurnero ทำให้เขามีโอกาสโจมตีด้วย Damage สองเท่า เป็น Skill ที่ช่วยให้ Yurnero ทำ Damage ได้สูง ซึ่งจะมีประโยชน์มากในช่วงกลางเกมและท้ายเกม

 

Omnislash

Level 1/2/3

Mana Cost 200/275/350

Cooldown 130/120/110

Cooldown แบบใส่ Aghanim's Scepter 110/100/90

Attack Hits 3/6/9

Attack Hits แบบใส่ Aghanim's Scepter 6/9/12

               

     Yurnero โดดพุ่งตัวอย่างว่องไวทั่วสนามรบเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้และทำให้เขาอยู่ในสถานะ Invulnerable ในขณะที่โจมตีอีกด้วย โดยการโจมตีแต่ละครั้งจะเป็น Physical Damage 175-250 คงตัว โดยจะทำการโจมตีทุกๆ 0.4 วินาทีและถ้ามี Attack Speed มากพอ Yurnero จะโจมตีแบบธรรมดาด้วยตัวเองเพิ่มไปในการโจมตีขณะโดดไปมาอีกด้วยซึ่ง Damage ที่ฟันเพิ่มเองจะสามารถหลบได้แต่ Damage จากตัว Skill นี้จะไม่สามารถหลบได้ (กรณี Evasion เท่านั้น) นอกจากนี้เป้าหมายแรกของ Skill นี้จะโดนขัดขวางการร่ายอีกด้วย เราสามารถใช้ Item ระหว่างกำลัง Omnislash อยู่ได้และได้รับ 200 Flying Vision ระหว่างที่กำลังโดดไปมาอีกด้วย สุดท้ายถ้าเราโดดใส่ Creep จะทำให้ Creep นั้นตายในทันทีอีกด้วย เป็น Skill ที่ทำ Damage ได้สูงและยังทำให้ Yurnero เป็นอมตะไปชั่วขณะหนึ่งอีกด้วย โดยการใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นต้องไม่มี Creep ในพื้นที่เพื่อให้เราฟันแต่ Hero เต็มๆและในช่วงท้ายเกมต้องระวังอย่าให้ Hero อยู่ห่างกันเกินไปในกรณีที่ไม่ได้โดดใส่ Carry หลักเพราะเป้าหมายอาจตายเร็วและเราจะโดดได้ไม่ครบจำนวนครั้ง Skill นี้มี Cooldown ค่อนข้างนานและยังสามารถใช้สวนจังหวะโดน Gank ในช่วงต้นเกมได้อีกด้วย


 

แนวทางการเล่น

 

     Yurnero เป็น Hero Carry ที่มี Survivability ต่ำจึงควรไป Lane ใกล้เพื่อฟาร์มก่อนในช่วงแรก ซึ่งจะสามารถ Heal ตัวเองเมื่อโดนกดได้แต่การจะให้ได้ฟาร์มอย่างต่อเนื่องควรมีคน Support ด้วย พอ Level 6 ให้พยายามหาจังหวะที่มี Hero อีกฝ่ายอยู่ตัวเดียวเพื่อเข้าไป Omnislash ใส่ซึ่งจะค่อนข้างได้ Kill แน่นอนพอสมควร ให้พยายามฟาร์มให้ได้มากที่สุดทั้งในป่าและ Lane ว่างและพก TP ไว้คอยวาปช่วยจังหวะ Team Fight เสมอ ให้พยายามดัน Tower บ่อยๆเพื่อสร้างจังหวะ Team Fight ซึ่งเราจะมี Healing Ward ซึ่งถ้า Team เรามี Disable มากอีกฝ่ายจะเข้ามาตียากทำให้ได้เปรียบใน Fight เป็นอย่างมาก ในช่วงท้ายเกมมากๆ Yurnero จะไม่เก่งเท่า Hard-Carry หลายตัวจึงไม่ควรพยายามถ่วงในจังหวะเสียเปรียบแล้วเราไม่มี Carry ที่ Late กว่า Yurnero

 

แนวทางการอัพSkill

 

แบบที่ 1 เล่นเป็น Hard-Carry เน้นฟาร์มเป็นหลัก

แบบที่ 2 เล่นเป็น Semi-Carry เน้นคุม Lane ช่วงแรกและ Team Fight

 

     การเลือกอัพ Skill นั้นให้ดูจากตำแหน่งของ Hero อื่นใน Team ซึ่งโดยส่วนมากจะนิยมแบบที่ 2 เพราะยืดหยุ่นได้มากกว่าและสามารถผันตัวเป็น Hard-Carry ได้เช่นกัน ซึ่งในบางเกมที่ Hero ฝ่ายตรงข้ามทำ Damage AoE ได้รุนแรงมากอาจอัพ Stats แทน Blade Dance ได้เช่นกัน

 

การออกของ , item, core item

 

     ต้นเกม เริ่มด้วยการซื้อ Tango, Ironwood Branch และ Stout Shield จากนั้นอัพเกรด Stout Shield เป็น Poor Man’s Shield แล้วจึงออก Boots of Speed จากนั้นอัพเกรดเป็น Phase Boots แล้วทำ Magic Ward         

     กลางเกม ให้ออก Ancient Janggo of Endurance มาเพื่อเพิ่ม Movespeed และ Attack Speed จากนั้นจึงทำ Aghanim's Scepter ซึ่งจะช่วยให้ทำ Damage ใน Team Fight ได้ดีมาก แล้วจึงออก Yasha ต่อเพื่อเพิ่ม Movespeed และ Attack Speed เข้าไปอีก

     ท้ายเกม อัพเกรด Yasha เป็น Manta Style เพื่อเพิ่ม Damage และใช้ Disable Debuff นอกจากนี้ Illusion ของเรายัง Critical จาก Blade Dance ได้ด้วย จากนั้นจึงออก The Butterfly เพื่อเพิ่ม Damage และยังได้ Evasion อีกด้วย จากนั้นถ้าอีกฝ่ายมี The Butterfly แล้วให้ออก Monkey King Bar มาแก้ทางหรืออาจออก Abyssal Blade มาใช้จัดการ Carry อีกฝ่ายและถ้าอีกฝ่ายสามารถ Disable เราได้บ่อยมากให้ออก Black King Bar มาช่วย

 

Tips & Trick

 

* เราสามารถรอให้อีกฝ่ายใช้ Skill มาก่อนจึง Blade Fury หรือ Omnislash เพื่อหลบ Skill ได้ซึ่งจะทำให้อีกฝ่ายเสีย Skill ฟรีอีกด้วย

* ในจังหวะ Team Fight ให้ปัก Healing Ward ไว้ในแนวหลังเพื่อให้เข้ามาตีได้ยาก

* Hero ที่ชนะทาง ได้แก่ Hero ที่เดินได้ช้าในช่วงต้นเกมซึ่งจะโดน Blade Fury วิ่งไล่แล้วรอดได้ยากมาก รวมถึง Hero Melee ซึ่งจะเข้ามาตี Healing Ward ได้ยาก

* Hero ที่แพ้ทาง ได้แก่ Hero ที่มี Skill Disable ทะลุ Immune Magic ได้เช่น Bane Elemental หรือ Magnus ซึ่งจะสามารถหยุดเราในช่วงแรกๆได้ รวมถึง Hero ที่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ซึ่งจะสามารถหลบเข้า Fog เพื่อหลบ Omnislash ในจังหวะโดนคนเดียวได้

 

 




คอมเมนต์ (Comments)