Shadow Fiend
Nevermore
Hero สาย Agi
Strength 15+2
Agility 20+2.9
Intelligence 18+2
ค่าความสามารถเริ่มต้นของตัวละคร
Affiliation: Scourge
Damage: 35 - 41
Armor: 1.8
Movespeed: 305
Attack Range: 500
Attack Animation: 0.5 / 0.54
Casting Animation: 0.67 / 0.4
Base Attack Time: 1.7
Missile Speed: 1200
Sight Range: 1800 / 800
อธิบายค่าต่างๆ
Nevermore เป็น Hero ที่สามารถเล่นได้ทั้ง Semi-Carry และ Hard-Carry โดยวิธีการเล่นจะต่างกันมากในแต่ละตำแหน่งซึ่งจะมีจุดเด่นเป็น Damage ที่รุนแรงโดย Nevermore มี Base Damage ค่อนข้างต่ำแต่สามารถเพิ่มได้ด้วย Skill Necromastery และมี Attack Range ที่ไกลทำให้สามารถ Last Shot / Denies ได้ไม่ยาก มี Armor และเลือดน้อยทำให้มักถูก Gank ต้นเกมได้ง่ายและต้องออกของเพื่อช่วยเพิ่มความอึดใน Team Fight พอสมควร ส่วน Movespeed นั้นปานกลางทำให้สามารถพอไล่ฆ่าคู่ต่อสู้และหาตำแหน่งทำ Damage ดีโดยพอสมควร ซึ่งนอกจากนี้ยังมี Skill Requiem of Souls ที่ทำ Damage ได้สูงมากเมื่อ Combo กับ Skill อื่นอีกด้วย
Skill ความสามารถต่างๆ
Shadowraze
Level 1/2/3/4
Mana Cost 75/75/75/75
Cooldown 10/10/10/10
Magical Damage 75/150/225/300
Nevermore ได้รับพลังที่จะระเบิดศัตรูจากระยะไกลโดยเมื่อเรียน Skill นี้จะได้รับ Skill Shadowraze มา 3 Skill ซึ่งแต่ละ Skill เมื่อกดใช้จะทำ Damage ที่ด้านหน้าของ Nevermore ในระยะต่างกันคือ 200/450/700 ซึ่ง Damage จะเป็น AoE 250 Range เป็น Skill ที่สามารถใช้ Nuke ในช่วงต้นเกมได้รุนแรงมากแต่ต้องใช้ความแม่นยำของผู้เล่นสูงและยังใช้ในจังหวะ Gank และ Team Fight ได้ดีมากด้วย Mana Cost ที่ไม่มากและใช้ได้ถึงสามครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟาร์มได้อีกด้วยซึ่งการเพิ่มความแม่นยำของ Shadowraze ต้องอาศัยการจดจำระยะและฝึกเล่นบ่อยๆเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
Necromastery - Passive
Level 1/2/3/4
Damage Limit 24/40/56/72
เมื่อ Nevermore ฆ่าเป้าหมาย เขาจะเก็บวิญญาณของเป้าหมายไว้ในตัวเขา ซึ่งจะเพิ่ม Damage ให้การโจมตีดวงละ 2 Damage แต่เมื่อ Nevermore ตายเขาจะปล่อยวิญญาณออกไปครึ่งหนึ่งของที่เขาเก็บสะสมไว้ การ Denies หรือ ฆ่า Creep ป่าหรือทำลายสิ่งก่อสร้างจะเพิ่มวิญญาณให้เราเช่นกัน ซึ่งถ้าฆ่า Hero จะเพิ่มวิญญาณ 12 ดวง (24 Damage) ซึ่งวิญญาณจาก Skill นี้จะเพิ่ม Damage ให้ Skill Requiem of Souls อีกด้วย เป็น Skill ที่ทำให้ Nevermore มี Damage สูงมากถ้าไม่โดนกดดันมากจนเกินไปหรือโดนฆ่าบ่อยซึ่ง Damage ที่ได้มาถือว่าสูงมาก ทำให้ Last Shot และ Denies ได้ง่ายมากอีกด้วย แต่จะมีข้อเสียตรงที่ในจังหวะที่ Nevermore ตายแล้วเพิ่งเกิดใหม่จะต้องเสียเวลาเก็บวิญญาณใหม่ซะก่อน ทำให้การซื้อเกิดในจังหวะคับขันของ Nevermore ไม่มีมากเท่าไร
Presence of the Dark Lord – Passive Aura
Level 1/2/3/4
Armor Reduction 3/4/5/6
รังสีของปีศาจเช่น Nevermore สร้างความหวาดกลัวแก่ศัตรูรอบๆทำให้ Armor ลดลง ซึ่งจะสามารถทับซ้อนจากความสามารถลดเกราะอื่นๆอีกด้วย (เช่นจาก Assault Cuirass) เป็น Skill ที่ช่วยเพิ่ม Damage โดยรวมใน Team Fight ได้สูงและยังทำให้ Nevermore ทำ Damage ได้สูงอีกด้วย แต่มีข้อเสียถ้าอัพ Skill นี้ตั้งแต่ต้นเกมคือจะทำให้ Creep ฝั่งเราดันไปฝั่งตรงข้ามเร็วทำให้พื้นที่ฟาร์มของเราน้อยลง
Requiem of Souls
Level 1/2/3
Mana Cost 150/175/200
Cooldown 120/110/100
Area of Effect 1375/1425/1475
Magical Damage for Each Line 80/120/180
อัญเชิญวิญญาณชั่วร้ายรอบตัว Nevermore เพื่อทำ Damage ซึ่งวิญญาณจะปรากฏตามที่เก็บไว้ด้วย Skill Necromastery ซึ่งทุก 2 Soul จะปล่อยวิญญาณออกมา 1 เส้น (สูงสุด 18) และถ้าศัตรูอยู่ใกล้ Nevermore จะโดน Damage จากวิญญาณหลายเส้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังลด Movespeed ศัตรูที่โดนลง 20% และ Damage ศัตรูที่โดนลง 50% ซึ่งเมื่อ Nevermore ตายเขาจะปลดปล่อยวิญญาณครึ่งเดียวของเขาด้วย Requiem of Souls เช่นกัน ทำให้วิญญาณที่ปล่อยออกมามีจำนวนแค่ครึ่งเดียว เป็น Skill ที่ทำ Damage ได้สูงมากใน Team Fight ถ้า Nevermore สามารถเข้าไปในจุดใกล้ศัตรูได้มากหรือเรามีเพื่อนช่วย Combo อย่าง Magnus (Reverse Polarity) หรือ Dark Seer (Vacuum) ซึ่งถ้าใช้ปกติ Damage อาจไม่แรงแต่จะช่วยลด Damage ศัตรูและทำให้ศัตรูถอยหรือสวนกลับยากขึ้นอีกด้วย
แนวทางการเล่น
Nevermore สามารถเล่นได้หลายแบบซึ่งถ้าเล่น Semi-Carry ให้ไป Solo Lane กลางซึ่งจะทำให้มี Level สูงไวและสามารถวิ่ง Gank และทำ Damage ได้สูง ส่วนถ้าเล่น Hard-Carry ให้ไป Lane ใกล้ที่มี Support คอยช่วยซึ่งเราจะฟาร์มได้เร็วเพราะ Base Damage สูงและเราจะรักษาตัวโดยฟาร์มอย่างเดียวและไม่ต้องเสี่ยงตายทำให้โอกาสที่จะเสียวิญญาณต่ำ ซึ่งในช่วงแรกนั้นให้เน้นฟาร์มก่อนเมื่อ Level 7 จะเริ่มไป Gank ได้ถ้ามีเพื่อนคอย Disable หรือ Slow ให้ซึ่งเราจะทำ Damage ได้สูงมากด้วย Shadowraze จากนั้นช่วงกลางเกมอาจเริ่มดัน Tower ถ้ารูปเกมได้เปรียบแต่ถ้าเสียเปรียบให้เลือกฟาร์มถ่วงเกมแทน ซึ่งให้พยายามอย่าเล่นเสี่ยงเพราะถ้าเราตายแล้วเสียวิญญาณไป เราจะ Damage น้อยลงมากใน Team Fight ซึ่งในช่วง Late game Nevermore สามารถสู้ Hero Hard-Carry ได้หลายตัวอยู่จึงสามารถถ่วง Late มากๆในเกมที่เสียเปรียบได้เช่นกัน
แนวทางการอัพSkill
เราจะอัพ Shadowraze ก่อนเพื่อใช้ทำ Damage ศัตรูและคุม Creep ใน Lane จากนั้นจึงอัพ Necromastery เพื่อเพิ่ม Damage แล้วจึงอัพ Presence of Dark Lord ในช่วงกลางเกมที่ไม่ต้องคุม Creep แล้วและเพิ่ม Damage ใน Team Fight
การออกของ , item, core item
ต้นเกม เริ่มด้วยการซื้อ Ironwood Branch และ Tango จากนั้นถ้าไป Solo กลางให้ออกเป็น Bottle ถ้าไป Lane อื่นเก็บเป็น Power Treads เลย จากนั้นทำ Magic Wand แล้วซื้อ Claymore
กลางเกม อัพเกรด Lothar’s Edge เพื่อใช้หนีและเพิ่ม Damage จากนั้นทำ Black King Bar ซึ่งจะช่วยให้เราอยู่ในจังหวะ Team Fight ได้นานพอที่จะทำ Damage ได้สูง จากนั้นให้ซื้อ Eaglehorn
ท้ายเกม อัพเกรด Eaglehorn เป็น The Butterfly ซึ่งจะเพิ่ม Damage ได้สูงและยังได้ Evasion อีกด้วยจากนั้นทำ Manta Style ต่อซึ่งจะเพิ่ม Damage และใช้แก้ Debuff ได้อีกด้วย จากนั้นให้เลือกทำ Buriza-Do Kyanon เพื่อเพิ่ม Damage หรือทำ Monkey King Bar มาแก้ทางตัวมี Evasion อีกฝ่าย
Tips & Trick
* เมื่อเราร่าย Requiem of Souls ในขณะที่ Wind Walk จะมี Delay เล็กน้อยก่อนที่เราจะปรากฏตัว
* เราสามารถให้ Support Stack Creep ป่าให้แล้วใช้ Shadowraze 3 ท่าต่อกันเพื่อจัดการ Creep ได้อย่างรวดเร็ว
* Hero ที่ชนะทาง ได้แก่ Hero ที่เดินช้าและไม่มี Skill ย้ายที่ซึ่งจะสามารถโดน Shadowraze ได้ง่ายรวมถึง Hero ที่เลือดน้อยเกือบตลอดทั้งเกม ที่จะโดน Requiem of Souls เก็บเอาได้ง่ายๆ
* Hero ที่แพ้ทาง ได้แก่ Hero ที่สามารถ Disable หรือหยุด Channeling ทะลุ Black King Bar ได้ซึ่งจะทำให้สามารถจัดการ Nevermore ได้ก่อนร่าย Requiem of Souls