ฮีโร่ไกด์

Queen Of Pain

แนวทางการเล่น Queen of Pain

ผู้เขียน
GOM
วันที่เขียน
9 พ.ค. 2013
ได้คะแนน

7 คะแนน



ไกด์ที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเล่น Queen of Pain สาย -

ไกด์ (Guides)

แนวทางการเล่น Queen of Pain



Queen of Pain
Akasha
Hero สาย Int
 Strength 16+1.7
 Agility 18+2.0
 Intelligence 24+2.5

ค่าความสามารถเริ่มต้นของตัวละคร

Affiliation: Scourge
Damage: 49 - 57
Armor: 1.52
Movespeed: 300
Attack Range: 550
Attack Animation: 0.56 / 0.41
Casting Animation: 0.452 / 1.008
Base Attack Time: 1.7
Missile Speed: 1500
Sight Range: 1800 / 800

อธิบายค่าต่างๆ

     Akasha เป็น Hero Semi-Carry ที่เด่นทั้งในการ Gank และ Team Fight และยังมี Survivability ที่ดี มี Base Damage ค่อนข้างน้อย Range สูงพอสมควรบวกกับมี Skill กดดัน Hero และควบคุมการไหลของ Creep ทำให้มักไปอยู่ Solo Lane และถ้า Solo Lane กลางยังสามารถ ใช้ Blink ไปเก็บ Rune ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่ง Akasha มี Armor และเลือดที่ค่อนข้างน้อยแต่จำเป็นต้องเข้าไปใช้ Skill กลางวงศัตรูทำให้ต้องการ Level มากเพื่อให้เลือดสูงกว่าคนอื่นในหลายจังหวะของเกม มี Movespeed ปานกลางและมี Skill เคลื่อนย้ายที่ซึ่งใช้ทั้งเข้าหรือออกจากการต่อสู้หรือหนีได้ จุดเด่นของ Akasha คือ Damage ที่รุนแรงและหนีตายได้ง่าย


Skill ความสามารถต่างๆ

 



Shadow Strike


Level 1/2/3/4
Mana Cost 80/100/120/140
Cooldown 20/16/12/8
Magical Damage 50/75/100/125
Duration Magical Damage 30/40/50/60
Slow Movespeed 20%/30%/40%/50%
     โยนมีดพิษซึ่งทำ Damage ศัตรูจากนั้นทำ Damage over time และ Slow movespeed ฝ่ายตรงข้าม โดย Duration Damage จะทำทุก 3 วินาทีเป็นเวลา 15 วินาที โดย Unit ที่ถูก Slow จะค่อยๆฟื้น Movespeed ภายในเวลา 15 วินาที โดย Unit ที่อยู่ภายใต้ผลของ Shadow Strike จะสามารถถูก Denies โดยเพื่อนทีมเดียวกันได้เมื่อเลือดต่ำกว่า 25% เป็น Skill ที่ใช้ตอด

 



Blink


Level 1/2/3/4
Mana Cost 60/60/60/60
Cooldown 12/10/8/6
Range Teleportion 200-700/200-850/200-1000/200-1150
     Teleport ในระยะสั้น ซึ่งถ้ากดใช้เกินระยะจะ Teleport ไปเพียง 4/5 ของ Max Range ซึ่งการ Blink นี้สามารถใช้หลบ Projectile ได้และมี Delay ก่อนทำการ Blink 0.33 วินาที เป็น Skill ทำให้ Akasha สามารถเข้าออกจากการต่อสู้ได้ง่าย ทำให้สามารถใช้ Skill ได้ง่ายขึ้นและโดนหลายเป้าหมายขึ้นและ Skill นี้ยังมี Cooldown ที่น้อยและเคลื่อนย้ายได้ไกลพอสมควรทำให้ใช้หนีได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

 



Scream of Pain


Level 1/2/3/4
Mana Cost 110/120/130/140
Cooldown 7/7/7/7
Magical Damage 85/165/225/300
     Akasha กรีดร้องออกมาทำ Damage ศัตรูที่อยู่รอบข้างในระยะ 475 AoE เป็น Skill ที่ทำ Damage ได้ปานกลางและมี Cooldown น้อยใช้ได้ดีทั้งในการฟาร์ม, Gank และ Team Fight ซึ่งจะมี Skill Blink ช่วยให้สามารถเข้าไปใช้ Skill นี้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

 



Sonic Wave


Level 1/2/3
Mana Cost 250/360/500
Cooldown 135/135/135
Cooldown แบบใส่ Aghanim's Scepter 100/70/40
Magical Damage 350/475/600
Magical Damage แบบใส่ Aghanim's Scepter 350/530/725
     สร้างคลื่นเสียงขาดมหึมาซึ่งทำ Damage มหาศาลแก่ Hero เป็นทางตรงซึ่งสามารถโดน Hero ที่ไกลสุดถึง 1200 range เป็น Skill ที่สามารถทำ Damage ได้รุนแรงมากและระยะกว้างพอสมควรซึ่งสามารถลด Cooldown ได้ด้วย Aghanim's Scepter ทำให้สามารถใช้ได้ในแถบทุก Team Fight ซึ่ง Damage รุนแรงมากทำให้เป็น Damage หลักของ Team Fight ได้และยังเป็นสามารถใช้ Gank ในช่วงต้นเกมได้อีกด้วย


แนวทางการเล่น


     Akasha สามารถไป Solo Lane ได้ทั้งกลางและไกลซึ่งใน Lane กลางจะสามารถทั้งตอด Hero ฝั่งตรงข้ามและคุม Rune ได้เป็นอย่างดี ส่วนใน Lane ไกลจะสามารถหนีจากศัตรูได้ด้วย Blink ทำให้ฆ่าได้ยาก ซึ่งช่วงแรกถ้าอยู่ Lane ไกลให้พยายามยืนเอา Level แล้วถ้าโดน Gank ให้ Blink หนี ส่วนถ้าไป Lane กลางให้คอยใช้ Shadow Strike ตอด Hero ฝ่ายตรงข้ามและใช้ Scream of Pain ดัน Creep แล้ว Blink ไปเก็บ Rune พอช่วงกลางเกมให้เราเริ่มวิ่ง Gank เราจะทำ Damage ได้สูงตามศัตรูได้ง่ายและยังมี Slow อีกด้วย ซึ่งถ้ามี Team Fight เกิดขึ้นเราก็จะมี Sonic Wave ที่ทำให้ทีมเราได้เปรียบอีกด้วย ซึ่งด้วย Blink จะทำให้เราเป็น Hero ที่ตายยาก ช่วงท้ายเกมเราจะทำ Damage ได้ไม่เด่นมากแต่ก็ยังถือว่ามากพอสมควร ควรเล่นอย่างปลอดภัยเพราะช่วงนี้จะมีการออก Item Orchid หรือ Scythe of Vyse มากันไม่ให้เราหนีด้วย Blink ได้ง่ายๆ การเดินจึงควรต้องระวังมากๆพอสมควร


แนวทางการอัพSkill

 


     การอัพ Skill จะอัพ Shadow Strike ไว้หนึ่งเพื่อกดดันศัตรูใน Lane ก่อนจากนั้นจึงอัพ Blink เพื่อใช้ในการไปเก็บ Rune หรือหนีจากการโดน Gank แล้วจึงอัพ Scream of Pain มีใช้ทำ Damage ทั้งกับ Creep และ Hero จากนั้นจึงอัพ Blink เต็มเพื่อเพิ่มระยะและทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับ Scream of Pain แล้วจึงอัพ Shadow Strike ซึ่งถ้าเราเสียเปรียบอยู่อาจทิ้ง Shadow Strike ไว้แค่หนึ่งไปตลอดทั้งเกมเลยก็ได้


การออกของ , item, core item


     ต้นเกม ควรเริ่มต้นด้วยการออกของเพิ่ม Damage ซึ่งมักเป็น Ironwood Branch และ Circlet of Nobility และ Tango จากนั้นเก็บเงินไว้เพื่อรอออก Bottle ตามด้วย Boots of Speed แล้วออก Magic Wand จากนั้นจึงอัพเกรด Power Treads เพื่อเพิ่ม Mana, Int และความเร็วในการโจมตี


     กลางเกม เราจะมีเงินมากพอสมควรถ้ารูปเกมโดยรวมไม่เสียเปรียบมากเกินไป ให้เก็บเงินซื้อ Point Booster และต่อเป็น Aghanim's Scepter เพื่อให้เราพร้อมที่จะ Team Fight ทุกเมื่อซึ่งถ้าเสียเปรียบมากอาจออก Null Talisman มา 1-2 อันก่อนเพื่อให้มี Mana ใช้ Skill ได้ต่อเนื่องจากนั้นจึงออก Black King Bar เพื่อที่จังหวะที่เรา Blink เข้าไป Combo Skill จะไม่โดน Disable เสียก่อน


     ท้ายเกมให้ออก Guinsoo’s Scythe of Vyse เพื่อทำให้เรามี Disable ซึ่งเราจะสามารถ Blink เข้าไปใช้ได้ง่ายจากนั้นจึงออก Shiva’s Guard มาเพื่อลดความสามารถของ Carry อีกฝ่ายหรืออาจออก Bloodstone เพื่อให้เลือดเยอะมากๆและ Respawn ได้เร็ว

 

Tips & Trick


*Tips เราสามารถกด Blink แล้วกด Stop เพื่อให้ Akasha ทำท่าเหมือน Blink ไปยังทิศทางหนึ่งแล้วจึงกด Blink จริงๆไปอีกทางได้\


*Sonic Wave ใช้เวลาร่ายนานพอสมควรซึ่งศัตรูที่วิ่งเร็วจะเดินหลบได้ควรมีเพื่อนมาใช้ Skill จัดตำแหน่งให้ก่อน เช่น Dream Coil (Puck) หรือ Kinetic Field (Disruptor)


*Hero ที่ชนะทาง ได้แก่ Hero ที่ Hp น้อยเพราะจะโดน Akasha ฆ่าในช่วงแรกได้ง่ายมาก และ Hero ที่เดินช้าเพราะ Akasha จะสามารถ Slow แล้วไล่ฆ่าด้วย Blink ได้ง่าย รวมถึง Hero ที่เก่งใน Team Fight แต่เลือดน้อยซึ่งจะโดน Akasha เก็บได้ง่ายมาก


*Hero ที่แพ้ทาง ได้แก่ Hero ที่สามารถที่มี Disable หรือ Silence เพราะจะทำให้เราหนีด้วย Blink ได้และยังทำให้เราใช้ Combo Skill ต่อเนื่องไม่ได้รวมถึง Hero ที่ทำลาย Mana ได้เพราะ Akasha ใช้ Mana เยอะมากในการ Combo Skill




คอมเมนต์ (Comments)